: 02-0495788  |  Line OA : https://lin.ee/nGPCezJ
  0 Cart | Ref. ยิงโฆษณา ltd
   หน้าแรก      หมวดสินค้า   บัวสวรรค์ออย (1 กระปุก มี 30 แคปซูล) + รับสิทธิ์สวัสดิการ 
บัวสวรรค์ออย (1 กระปุก มี 30 แคปซูล) + รับสิทธิ์สวัสดิการ

ราคาพิเศษ : 650.00 บาท
ปกติราคา : 750.00  |  14% ลด


Point/Rp : 100
31 วัน

เข้าชม 401 
ขายแล้ว 43

Code : LYBS005C



บัวสวรรค์ออย (1 กระปุก มี 30 แคปซูล) + รับสิทธิ์สวัสดิการ





น้ำมันสกัดเย็น เป็นน้ำมันที่สกัดจากพืชโดยใช้ความร้อนต่ำ  ทำให้เก็บรักษาคุณค่าทางอาหารได้มากขึ้น  

5 ประโยชน์และข้อดี ของน้ำมันสกัดเย็น


น้ำมันสกัดเย็น 4 ชนิด

น้ำมันมะพร้าว (Coconut Oil) คืออะไร?
น้ำมันมะพร้าวเป็นน้ำมันที่สกัดจากเนื้อมะพร้าว มีกรดไขมันที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย โดยเฉพาะ กรดลอริก (Lauric Acid) ซึ่งมีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส และเชื้อรา นอกจากนี้ยังมีกรดไขมันสายกลาง (MCTs) ที่ร่างกายนำไปใช้เป็นพลังงานได้เร็ว


ประโยชน์ของน้ำมะพร้าว :-
✅ ช่วยเพิ่มพลังงาน: มีกรดไขมันสายกลาง (MCTs) ที่ร่างกายสามารถเผาผลาญเป็นพลังงานได้อย่างรวดเร็ว
✅ ช่วยกระตุ้นการเผาผลาญไขมัน: อาจช่วยในการลดน้ำหนักโดยเพิ่มการเผาผลาญและลดความอยากอาหาร
✅ ช่วยลดคอเลสเตอรอล: อาจช่วยเพิ่มระดับ HDL (ไขมันดี) และลด LDL (ไขมันไม่ดี)
✅ มีฤทธิ์ต้านจุลชีพ: มีกรดลอริกที่ช่วยต้านเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส และเชื้อรา
✅ ช่วยบำรุงสมอง: อาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคอัลไซเมอร์โดยให้พลังงานแก่สมอง
✅ ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว: ใช้เป็นมอยส์เจอไรเซอร์ธรรมชาติสำหรับผิวแห้ง
✅ ช่วยลดริ้วรอย: มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยชะลอวัย
✅ บรรเทาอาการผื่นคันและอักเสบ: อาจช่วยลดอาการของโรคผิวหนัง เช่น ผื่นแพ้และโรคสะเก็ดเงิน
✅บำรุงเส้นผม: ทำให้ผมนุ่ม เงางาม และช่วยลดปัญหารังแค



น้ำมันกระเทียม (Garlic Oil) คืออะไร?
น้ำมันกระเทียมเป็นน้ำมันที่สกัดจากกระเทียม มีสารสำคัญอย่าง อัลลิซิน (Allicin) ซึ่งมีคุณสมบัติทางยาและให้กลิ่นฉุนเฉพาะตัว น้ำมันกระเทียมสามารถใช้ได้ทั้งแบบรับประทานและทาภายนอก

ประโยชน์ของน้ำมันกระเทียม
✅ ช่วยลดคอเลสเตอรอล – มีส่วนช่วยลด LDL (ไขมันไม่ดี) และเพิ่ม HDL (ไขมันดี)
✅ ช่วยลดความดันโลหิต – อาจช่วยให้หลอดเลือดขยายตัว ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ
✅ เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน – มีสารต้านอนุมูลอิสระและช่วยต้านเชื้อโรค
✅ ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด – มีผลดีต่อผู้ป่วยเบาหวานโดยช่วยปรับสมดุลอินซูลิน
✅ ช่วยต้านการอักเสบ – มีฤทธิ์ลดอาการอักเสบและช่วยบรรเทาอาการของโรคข้อเสื่อม
✅ ช่วยบรรเทาหวัดและไข้หวัดใหญ่ – ลดอาการคัดจมูกและช่วยขับเสมหะ
✅ ช่วยขยายหลอดลม – มีผลดีต่อผู้ป่วยโรคหอบหืดและภูมิแพ้
✅ ฆ่าเชื้อแบคทีเรียและไวรัส – ช่วยลดการติดเชื้อทางเดินหายใจ
✅ ช่วยฆ่าเชื้อในลำไส้ – อาจช่วยลดอาการอาหารเป็นพิษจากแบคทีเรีย
✅ ช่วยลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ – กระตุ้นการทำงานของระบบย่อยอาหาร
✅ ช่วยลดพยาธิในลำไส้ – มีฤทธิ์ต้านเชื้อปรสิตบางชนิด
✅ ช่วยรักษาสิว – ฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิว
✅ ลดอาการคันและผื่นแพ้ – ช่วยบรรเทาอาการอักเสบของผิวหนัง
✅ ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม – ลดผมร่วงและช่วยให้รากผมแข็งแรง
✅ ใช้เป็นน้ำมันนวดบรรเทาปวด – ลดอาการปวดกล้ามเนื้อและข้ออักเสบ
✅ ช่วยไล่แมลง – กลิ่นของกระเทียมสามารถช่วยไล่ยุงและแมลงบางชนิด
✅ มีฤทธิ์ต้านเชื้อรา – อาจช่วยรักษาโรคเชื้อราที่เท้าและเล็บ



น้ำมันงาขี้ม่อน (Perilla Oil) คืออะไร?
น้ำมันงาขี้ม่อนเป็นน้ำมันที่สกัดจากเมล็ดงาขี้ม่อน (Perilla frutescens) ซึ่งเป็นพืชตระกูลเดียวกับโหระพาและใบแมงลัก อุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3, วิตามิน และสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย

ประโยชน์ของน้ำมันงาขี้ม่อน

✅ อุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 – ช่วยลดการอักเสบ และบำรุงสมอง
✅ ช่วยลดคอเลสเตอรอล – อาจช่วยลด LDL (ไขมันไม่ดี) และเพิ่ม HDL (ไขมันดี)
✅ ช่วยบำรุงหัวใจ – มีฤทธิ์ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด
✅ ช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือด – อาจช่วยลดภาวะดื้อต่ออินซูลินและช่วยป้องกันเบาหวาน
✅ ช่วยต้านการอักเสบ – มีฤทธิ์ช่วยลดอาการอักเสบของร่างกาย
✅ ช่วยบำรุงสมอง – อาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคอัลไซเมอร์และพาร์กินสัน
✅ ช่วยลดความเครียดและวิตกกังวล – มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องเซลล์สมอง
✅ ช่วยให้ความจำดีขึ้น – กรดไขมันโอเมก้า 3 มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างการทำงานของสมอง
✅ ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและลดริ้วรอย – มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยชะลอวัย
✅ ลดอาการแพ้และอักเสบของผิวหนัง – อาจช่วยบรรเทาอาการของโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง
✅ ช่วยบำรุงเส้นผม – ทำให้ผมนุ่ม แข็งแรง และลดผมร่วง
✅ ช่วยลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ – มีฤทธิ์ช่วยย่อยอาหาร
✅ ช่วยป้องกันแผลในกระเพาะอาหาร – ลดการอักเสบของเยื่อบุกระเพาะ
✅ ช่วยขับสารพิษในร่างกาย – อาจช่วยล้างพิษและส่งเสริมการทำงานของตับ
✅ เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน – ช่วยให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น
✅ ช่วยลดอาการภูมิแพ้ – มีสารต้านการอักเสบที่อาจช่วยลดอาการแพ้ฝุ่นละอองและละอองเกสร
✅ มีฤทธิ์ต้านเชื้อราและแบคทีเรีย – สามารถช่วยลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ




น้ำมันจมูกข้าว (Rice Germ Oil) คืออะไร?
น้ำมันจมูกข้าวเป็นน้ำมันที่สกัดจากจมูกข้าวและรำข้าว ซึ่งเป็นส่วนที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง เช่น แกมมา-โอริซานอล (Gamma-Oryzanol), วิตามินอี, กรดไขมันดี และสารต้านอนุมูลอิสระ

ประโยชน์ของน้ำมันจมูกข้าว
✅ ช่วยลดคอเลสเตอรอล – แกมมา-โอริซานอลช่วยลด LDL (ไขมันไม่ดี) และเพิ่ม HDL (ไขมันดี)
✅ บำรุงหัวใจและหลอดเลือด – ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและช่วยควบคุมความดันโลหิต
✅ ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด – เหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน
✅ ต้านอนุมูลอิสระ – มีวิตามินอีสูงช่วยชะลอวัยและป้องกันโรคเรื้อรัง
✅ ช่วยบำรุงตับ – มีสารช่วยล้างสารพิษในตับ
✅ ช่วยลดความเครียดและอาการนอนไม่หลับ – มีสารช่วยปรับสมดุลของฮอร์โมนในร่างกาย
✅ บำรุงสมองและความจำ – อาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคอัลไซเมอร์
✅ ช่วยลดอาการวัยทอง – ปรับสมดุลฮอร์โมนในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน
✅ ช่วยให้ผิวเนียนนุ่ม ชุ่มชื้น – วิตามินอีช่วยบำรุงผิวให้แข็งแรง
✅ ช่วยลดริ้วรอยและจุดด่างดำ – ปกป้องผิวจากมลภาวะและแสงแดด
✅ บำรุงเส้นผมและหนังศีรษะ – ช่วยลดผมร่วงและทำให้ผมเงางาม
✅ ช่วยเผาผลาญไขมัน – มีกรดไขมันดีที่ช่วยเร่งกระบวนการเผาผลาญ
✅ ช่วยลดความอยากอาหาร – ทำให้รู้สึกอิ่มนานขึ้น
✅ ช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน – มีสารช่วยเสริมสร้างมวลกระดูก
✅ ช่วยลดการอักเสบของข้อ – อาจช่วยบรรเทาอาการข้ออักเสบ
✅ ใช้ทำอาหารเพื่อสุขภาพ – มีจุดเดือดสูง เหมาะสำหรับการทอดและผัด

บทสรุป :-

•น้ำมันมะพร้าว :  มีกรดลอริกสูง  ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน  ดีต่อหัวใจ  และช่วยลดน้ำหนัก
•น้ำมันกระเทียม :  ช่วยลดความดันโลหิต  ป้องกันโรคหัวใจ  และมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ
•น้ำมันงาขี้ม้อน :  ช่วยลดคอเลสเตอรอล  ป้องกันโรคหัวใจ  และมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ
•น้ำมันจมูกข้าวรำข้าว :  อุดมไปด้วยวิตามินอี  ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ  และช่วยบำรุงผิวพรรณ


1. อุดมไปด้วยสารอาหาร:  น้ำมันสกัดเย็นเก็บรักษาคุณค่าทางอาหาร ไขมันดี วิตามิน และแร่ธาตุ ได้มากกว่าการสกัดด้วยความร้อนสูง
2. มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง:  ช่วยป้องกันเซลล์จากความเสียหาย ชะลอความแก่ และเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
3. ช่วยลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง:  เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือด โรคมะเร็ง และโรคเบาหวาน
4. ช่วยลดการอักเสบ:  น้ำมันสกัดเย็นมีฤทธิ์ในการต้านการอักเสบ ช่วยลดอาการปวด บวม แดง
5. เหมาะสำหรับการปรุงอาหาร:  น้ำมันสกัดเย็นมีจุดควันสูง ทนความร้อนได้ดีกว่าน้ำมันสกัดทั่วไป

ข้อควรระวัง
•เก็บรักษาน้ำมันสกัดเย็นในที่เย็นและมืด เพื่อรักษาคุณภาพ  

วิธีรับประทาน
วันละ 2 เม็ด ก่อนนอน













แชร์